การสะสมแมลงอย่างใจจดใจจ่อท่ามกลางธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ในชานเมืองโตเกียวในวัยเด็ก คือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้สร้างริเริ่มทำซีรีส์ “โปเกมอน” และด้วยความปรารถนาของเขาที่ต้องการกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของ “ความสนุก” และอยากให้ผู้คนได้สัมผัสกับธรรมชาติผ่านการสำรวจและค้นหาโปเกมอน โปรเจกต์ “Pokémon WONDER” จึงได้ถือกำเนิดขึ้น
ผู้ที่มาเยือนจะสวมบทนักวิจัยโปเกมอนออกสำรวจ “ป่าอินางิ” ซึ่งเป็นฐานการผจญภัย และเดินค้นหาโปเกมอนที่ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติเช่นเดียวกับการค้นหาด้วงกว่างหรือนกป่าภายในป่ากว้างใหญ่ที่มีพื้นที่ถึงประมาณ 4,500 ตารางเมตร

ตัวอย่างเช่น ในสมุดบันทึกการสำรวจเล่มหนึ่งได้บันทึกไว้ว่า “ค้นพบร่องรอยสีม่วงเป็นจุด ๆ เรียงต่อกัน จึงได้เดินตามไป แต่แล้วรอยนั้นกลับขาดหายไปตรงด้านหน้าพุ่มไม้”
จากข้อมูลนี้ยังไม่ทราบได้ว่าเป็นโปเกมอนอะไร ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน สิ่งที่ผู้เล่นจะทำคือ ต้องไขปริศนานี้โดยเดินวนรอบสนามกว้างเพื่อตามหาร่องรอยนั้น บางครั้งอาจต้องแหวกพุ่มไม้บ้าง ส่องหาในน้ำบ้าง มีโปเกมอนกว่า 50 ชนิดซ่อนตัวอยู่เพื่อให้ผู้เล่นค้นหา และในระหว่างเที่ยวค้นหาภายในป่า ผู้เล่นก็จะได้สัมผัสและเพลิดเพลินกับธรรมชาติไปด้วยในตัว

สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการสร้าง “Pokémon WONDER” คือการนำ “ความเป็นตัวโปเกมอน” ท่ามกลางธรรมชาติในโลกที่แท้จริงและ “ความสนุกในการค้นหา” มารวมเข้าไว้ด้วยกัน เบื้องหลังการสร้างกลไกในการ “ติดตามร่องรอยของโปเกมอนและทำให้ผู้เล่นปล่อยตัวเข้าสู่ธรรมชาติ” คือทีมงานที่ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มครีเอทีฟที่เข้าใจแนวคิดและทุ่มเทให้กับโปรเจกต์นี้อย่างจริงจัง ทั้งไอเดียที่พร้อมให้อย่างเต็มที่ของบริษัท RIDDLER, Inc. ซึ่งนำทีมโดยคุณ Ryogo Matsumaru ผู้อยู่เบื้องหลังกระแสนิยมของ “เกมไขปริศนา” และความใส่ใจในรายละเอียดของคุณ Keiichi Motoyama ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ที่สร้างงานด้านภาพยนตร์วิดีโอให้กับโปเกมอนเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น เทรลเลอร์ของ “Pokémon GO” ที่เผยแพรไปทั่วโลก ล้วนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการปรับทั้งสองสิ่งนี้ให้สมดุลได้อย่างลงตัว
ผู้รับผิดชอบการสร้างโปรเจกต์นี้ได้เล่าว่า
“กลไกในการสร้างนี้เราได้ลองผิดลองถูกมาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า “ควรจะให้โปเกมอนตัวไหนปรากฏตัวออกมาในลักษณะอย่างไร” เป็นเรื่องที่เราถกกันมามาก เนื่องจากสิ่งมีชีวิตมีระบบนิเวศของมัน ดังนั้นจึงมีโปเกมอนดูเป็นธรรมชาติเมื่ออยู่ในป่า และที่ไม่ใช่ก็มี แม้ว่าจะคิดคำถามปริศนาหรือกลไกอะไรออกมาได้มากแค่ไหน แต่ถ้าไอเดียนั้นไม่เป็นธรรมชาติที่เหมาะกับโปเกมอนตัวนั้นก็ต้องกลับไปคิดกันใหม่ มีไอเดียมากกว่าร้อยที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องเสนอมา นอกจากมีความเป็นธรรมชาติแล้วก็ต้องมีความสนุกน่าเล่นด้วย ในฐานะผู้สร้างโปเกมอนแล้วสิ่งที่ดีที่สุดคือการดึงเสน่ห์ของแต่ละอย่างออกมาให้ได้มากที่สุด จะให้ตัวโปเกมอนเองโดดเด่นเกินไปก็ไม่ได้ เพราะจะไม่ใช่ “เกมค้นหาโปเกมอน” ในทางกลับกัน ถ้ากลมกลืนกับธรรมชาติมากเกินไป ก็จะขาดความเป็นตัวของโปเกมอนไป พวกเราทดลองทำและปรับปรุงกันไปหลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้ได้จุดที่สมดุลกันอย่างลงตัวระหว่าง “ความเป็นตัวโปเกมอน” กับ “ความสนุกในการค้นหา” ในที่สุด”

พิจารณาตัวเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วนและลองผิดลองถูกไปทีละอย่างเพื่อกำหนดสถานที่ซ่อนและวิธีการปรากฏตัวของโปเกมอน
“สิ่งที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่าโปรเจกต์นี้มาไม่ผิดทางแน่คือ ตอนที่เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็กที่มาเข้าร่วมทดลองเล่น เขาเป็นเด็กที่ไม่ชอบแมลงแค่เห็นมดก็กลัวแล้ว และสถานที่ที่เขาจะออกผจญภัยนั้นอยู่ในธรรมชาติและแน่นอนว่ามีแมลงอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เด็กคนนั้นกลับพูดว่า “น่าจะมีโปเกมอนอยู่ตรงโน้น!“ พร้อมแหวกหญ้าและพาตัวเองเข้าสู่ธรรมชาติ จดจ่ออยู่กับการค้นหาโปเกมอน จนลืมเรื่องแมลงที่ตัวเองไม่ชอบไปเลย นั่นคือชั่วเวลาหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าพลังของโปเกมอนกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเด็กกับธรรมชาติ”
“การเล่น” ท่ามกลางการสัมผัสกับธรรมชาติไม่ว่าเวลาจะผันผ่านไปแค่ไหนก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง การทำให้ใคร ได้ค้นพบ “การเล่น” ที่เป็นจุดกำเนิดของโปเกมอนแบบนี้อีกครั้งใน Pokémon WONDER อาจจะเชื่อมไปสู่ประสบการณ์ที่เคยมีมาของใครบางคนก็ได้ ที่ Pokémon WONDER นอกจากเด็กแล้ว ผู้ใหญ่เองก็จะได้ย้อนวัยเพลิดเพลินไปกับการเล่นในธรรมชาติด้วยเช่นกัน
*บทความนี้เป็นบทความที่ลงในเว็บไซต์บริษัท เดอะ โปเกมอน คัมพานีเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ.2021
*โปรดทราบว่าในบทความอาจมีข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อมูลสินค้า ข้อมูลอีเวนต์ที่ไม่ได้จัดแล้วในปัจจุบัน หรือจัดอยู่เพียงเฉพาะบางประเทศและภูมิภาคเท่านั้น และอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย
